เผยบทสทนาสุดท้ายนักบินฟลายดูไบก่อนเครื่องตก คาดเป็นความบกพร่องของนักบิน

ภาพจาก AFP

สถานีโทรทัศน์รัสเซียเผยสคริปต์บทสนนาระหว่างนักบินฟลายดูไบ FZ981 ในนาทีก่อนเครื่องตก มีคำร้องห้ามอย่าทำ หลังนักบินร่วมปิดระบบออโต้ไพลอต ชี้เหตุเครื่องบินตกอาจมาจากความผิดพลาดของนักบิน ขณะสื่อรัสเซียแฉฟลายดูไบใช้งานนักบินหนัก

วันที่ 26 มีนาคม 2559 เว็บไซต์มิเรอร์ รายงานความคืบหน้ากรณีเครื่องบินโบอิ้ง 737 ของสายการบินต้นทุนต่ำ ฟลายดูไบ เที่ยวบินที่ FZ981 ประสบอุบัติเหตุตกขณะพยายามนำเครื่องลงจอดที่เมืองรอสตอฟ ออน ดอน ประเทศรัสเซีย เป็นเหตุให้ผู้โดยสารรวมลูกเรือ 62 รายเสียชีวิตยกลำ (อ่านข่าว เครื่องบินฟลายดูไบ FZ981 ตกที่รัสเซียขณะแลนดิ้ง) ล่าสุดสถานีโทรทัศน์ รอสซิยา-1 ของรัสเซีย ได้เผยแพร่สคริปต์บทสนทนาในห้องนักบิน ซึ่งระบุว่าได้มาจากผู้ทำงานเกี่ยวข้องในการตรวจสอบกล่องดำของเครื่องบินมรณะลำดังกล่าว

จากบทสนทนาชี้ให้เห็นว่า นักบินคนหนึ่งได้ปิดระบบการบินอัตโนมัติ หรือ ออโต้ไพลอตลง พร้อมกับมีเสียงพูดว่า "ไม่ต้องกังวล" ขณะที่นักบินอีกคนหนึ่งพูดสวนขึ้นมาว่า "อย่าทำอย่างนั้น"

และเสียงสุดท้ายที่ได้ยินก่อนเครื่องบินจะดิ่งกระแทกพื้น คือเสียงตะโกนดังลั่น บอกว่าให้ "เชิดขึ้น" ก่อนที่ทุกเสียงจะโดนกลบด้วยเสียงกรีดร้อง

ภาพจาก STR/AFP

        จากการสันนิษฐานเบื้องต้นตามข้อมูลชุดนี้ ชี้ให้เห็นว่า เหตุเครื่องบินตกนี้น่าจะเกิดขึ้นจากความผิดพลาดของมนุษย์ แต่อย่างไรก็ตาม การสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียดจะยังคงดำเนินต่อไป เพื่อตัดสินว่าเป็นความผิดพลาดของนักบิน สภาพอากาศที่เลวร้ายที่มีทั้งลมแรงและฝนตก หรือความผิดพลาดทางเทคนิคกันแน่

        ด้านนักวิเคราะห์เผยว่า จากบทสนทนาที่ได้รับชี้ให้เป็นว่านักบินได้กดใช้งานแพนหางของเครื่องบิน (stabilising fin) โดยไม่ตั้งใจ ในขณะพยายามบังคับเครื่องใช้เชิดกลับขึ้นในแนวระนาบ ซึ่งเมื่อส่วนนี้ถูกใช้งาน จะทำให้เครื่องบินไม่สนองตอบต่อการสั่งงานผ่านแผงควบคุมจากนักบิน และดูเหมือนนักบินจะไม่ได้ตระหนักเลยว่า การใช้งานส่วนแพนหางเท่ากับทำให้เครื่องดิ่งลงอย่างรวดเร็ว

        นอกจากนี้ ตามรายงานจากเว็บไซต์รัสเซียทูเดย์ ซึ่งได้รับข้อมูลอดีตนักบินของฟลายดูไบ รวมถึงนักบินปัจจุบัน ซึ่งขอไม่เปิดเผยชื่อด้วยเหตุผลทางหน้าที่การงาน ระบุว่า สายการบินนี้การใช้งานนักบินอย่างหนัก ให้ทำงานเกินชั่วโมงทำงานที่พอดี ทำให้นักบินเกิดความเหนื่อยล้า และเชื่อว่า อเลจานโดร อลาวา นักบินคนหนึ่งของเที่ยวบินมรณะดังกล่าว ก็เผชิญภาวะเหนื่อยล้าจากการทำงานหนักเช่นเดียวกัน