หน้าเว็บ

ด่วนสุดๆ.. ย้อนรอย นักโทษฆ่าข่มขืน ทีถูก ประหารในไทย แชร์เลยเพือน

จากคดีน้องแก้ม คดีข่มขื่นแล้วฆ่าล่าสุด เป็นคดีที่สะเทือนใจอย่างมาก
น่าเศร้าใจมากที่คดีแบบนี้เกิดได้ทุกยุคทุกสมัย ตั้งแต่อดีดจนถึงปัจจุบัน
ฆาตรกรบ้างก็ถูกประหาร บ้างก็ลอยนวล แล้วกลับทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า

วันนี้ เราจะมาย้อนรอย นักโทษฆ่าข่มขืน"เด็ก" ที่เดินเข้าสู่หลักประหาร กันค่ะ
ความโหดร้ายทารุณเกินมนุษย์ พวกเขาเหล่านั้น สมควรได้รับโทษอย่างไร
หลายๆท่านคงเคยทราบเคยอ่านหนังสือกันมาบ้างแล้วสิ้นเสียงสั่งพิพากษาน้ำตาหยด    ศาลกำหนดด้วยชีวิตจิตเศร้าหมอง
กลั่นสะอื้นก้มหน้าน้ำตานอง           อยากจะร้องไห้โฮโอ้เวรกรรม
กรรมครั้งไหนเมื่อไหร่ที่ได้สร้าง   บนหนทางชีวิตคิดแล้วช้ำ
ต้องติดคุกมีแต่ทุกข์ถูกจองจำ        เช้าเย็นคำต้องเศร้าโศกวิโยคใจ
ชำนาญ คล้ายหนู สำนักพิมพ์คิงแรท
บทความและข้อมูลในกระทู้นี้ จขกท นำมาจากบางส่วนของหนังสือ คำสารภาพสุดท้ายของนักโทษประหาร โดย ยุทธ บางขวาง นะคะ
แก้ไข จขกท เพิ่มเคสฆ่าข่มขืนเคสที่6.นายส้มเกลี้ยง สร้อยพลาย ตามคำขอของสมาชิกค่ะ อยู่ใน ความคิดเห็นที่ 106
แก้ไข เพิ่มอีกคดีในกระทู้ใหม
กระทู้นี้นะคะ เรื่องคดีฆ่าข่มขืนยุคจอมพลถนอม

เฮ้ยจริงหรอ !! "น้องอัน" สาวสวยสายย่อ ที่ต้องเต้นริมถนน ที่จริงเป็นแม่ค้าคนนี้เองหรอ !?

loading...

 กลายเป็นคลิปที่ดังสะท้านโซเชียล หลังจากที่เฟซบุ๊ค Wanwisa Rattanapong ได้แชร์คลิปสาวเสื้อเหลืองเต้นอยู่ข้างรถพร้อมเขียนข้อความว่า “เด็กบ้าที่ไหน มันมาเต้นแก้บนที่รถกูว่ะเนี่ย
 ล่าสุดก็มีประเด็นใหม่เกิดขึ้นมาอีก เมื่อมีคนไปสังเกตุเห็นว่าเฟสบุ๊คของเธอ ดันไปเหมือนกับสาวเสริฟสุดเซ็กซี่ ที่เคยดังไปทั่วประเทศมาแล้วอย่างนี้ล่าสุดก็มีประเด็นใหม่เกิดขึ้นมาอีก เมื่อมีคนไปสังเกตุเห็นว่าเฟสบุ๊คของเธอ ดันไปเหมือนกับสาวเสริฟสุดเซ็กซี่ ที่เคยดังไปทั่วประเทศมาแล้วอย่างนี้

loading...



loading...

เงิบแล้วละ !! คดีพลเมืองดีที่ช่วยเด็กหญิงล้มรถ แต่หาว่าแอบไปแต๊ะอั๋ง ล่าสุดเด็กหญิง 14 ปี ในรูปได้ออกมาพูดว่าอย่างนี้!!?

loading...

 กลายเป็นภาพที่ทำให้เกิดเป็นประเด็นดราม่าไปทั่วประเทศ กรณีด.ญ.หน่อย (นามสมมติ) วัย 14 ปี ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้มจนบาดเจ็บขาหักที่จ.อ่างทอง ซึ่งหลังจากเกิดได้มีผู้พบเห็นเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นชายอายุประมาณ 30-40 ปี สวมเสื้อโปโลสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว เป็นผู้เข้าไปช่วยเหลือเป็นคนแรก ๆ และเป็นผู้โทรศัพท์แจ้งไปยังญาติของด.ญ.หน่อย ให้ทราบถึงอุบัติเหตุให้เกิดขึ้น แต่เรื่องราวกลับใหญ่โต เมื่อมีการนำภาพขณะทำการช่วยเหลือปฐมพยาบาลเด็กหญิงแล้วมีมือดีนำไปเผยแพร่ในด้านลบ กล่าวหาว่าเป็นกู้ภัยหื่น ทั้งที่ชายคนดังกล่าวเข้าไปช่วยเหลือ พยุงและประคองด.ญ.หน่อย ไว้ลักษณะให้พิงกับตนเอง โดยใช้มือซ้ายกดโทรศัพท์แจ้งตำรวจกลายเป็นภาพที่ทำให้เกิดเป็นประเด็นดราม่าไปทั่วประเทศ กรณีด.ญ.หน่อย (นามสมมติ) วัย 14 ปี ประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้มจนบาดเจ็บขาหักที่จ.อ่างทอง ซึ่งหลังจากเกิดได้มีผู้พบเห็นเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นชายอายุประมาณ 30-40 ปี สวมเสื้อโปโลสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว เป็นผู้เข้าไปช่วยเหลือเป็นคนแรก ๆ และเป็นผู้โทรศัพท์แจ้งไปยังญาติของด.ญ.หน่อย ให้ทราบถึงอุบัติเหตุให้เกิดขึ้น แต่เรื่องราวกลับใหญ่โต เมื่อมีการนำภาพขณะทำการช่วยเหลือปฐมพยาบาลเด็กหญิงแล้วมีมือดีนำไปเผยแพร่ในด้านลบ กล่าวหาว่าเป็นกู้ภัยหื่น ทั้งที่ชายคนดังกล่าวเข้าไปช่วยเหลือ พยุงและประคองด.ญ.หน่อย ไว้ลักษณะให้พิงกับตนเอง โดยใช้มือซ้ายกดโทรศัพท์แจ้งตำรวจ
ซึ่งหนุ่มในภาพนั้นก็คือนายสุรชัย เฉลยวรรณ อายุ 35 ปี โดยนายสุรชัยกล่าวว่า มีอาชีพเป็นพ่อค้าขายเมี่ยงปลาอยู่ที่หน้าบ้านตัวเอง โดยวันเกิดเหตุตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านเพื่อมุ่งหน้าไปซื้อปลาที่ตลาด ระหว่างการเดินทางได้พบด.ญ.หน่อยประสบอุบัติเหตุรถล้ม ตนจึงจอดรถและเข้าไปช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้หญิงเข้าไปก่อนคนแล้ว 1 คน ซึ่งช่วงนั้นอากาศกำลังร้อนระอุ ตนก็รีบประคองเด็กเข้าข้างทาง
 
loading...
     "ตอนนั้นด.ญ.หน่อยกำลังใช้โทรศัพท์อยู่ ผมก็ถามเด็กว่าโทรบอกพ่อแม่หรือยัง ผมจึงขอเบอร์ญาติและโทรศัพท์ติดต่อญาติด.ญ.หน่อยให้ ซึ่งมือหนึ่งก็โทรศัพท์ อีกมือก็ประคองเด็กไว้ จนเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาถึง ก็ช่วยกันปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาล จากนั้นมาผมก็ไม่ได้รู้ข่าวสารอะไรเลย เพราะไม่ได้เล่นโซเชียล จนกระทั่งเมื่อเช้าที่ผ่านมา มีข่าวออกและเพื่อนบ้านนำข้อความทางโซเชียลมาให้ดู บอกเลยผมรู้สึกเสียใจมาก ทำให้ผมเสียความรู้สึก"
            นายสุรชัยกล่าวว่า ครั้งต่อไปหากเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็ไม่อยากจะเข้าไปช่วยใครแล้ว ตนยืนยันเลยว่าตนไม่ได้ไปจับหน้าอกเด็กเลย ตนสงสารเด็กที่ประสบอุบัติเหตุแล้วยังไม่มีใครเข้าไปช่วย ตนจึงเข้าไปช่วย จะปล่อยให้เด็กนอนอยู่กลางถนนที่กำลังร้อนอย่างนั้นหรือ ตนจำเป็นต้องประคองไว้ ขนาดรองเท้าตนยังถอดให้เด็กรองนั่ง เพราะพื้นถนนร้อนมาก ซึ่งตอนนี้ตนก็กำลังปรึกษาพี่ซึ่งเป็นทนาย จะดำเนินการฟ้องร้องเพจ เว็บไซต์ หรือบุคคลที่กล่าวหาให้ตนเสียหาย






      นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลอ่างทอง เพื่อเข้าเยี่ยมและสอบถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับด.ญ.หน่อย พบว่าเขาข้างขวาหัก 2 ท่อน แพทย์ต้องเข้าเฝือกไว้เพื่อรักษาพยาบาล ด.ญ.หน่อยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นว่า เมื่อวันที่เกิดเหตุตนได้ขี่รถจักรยานยนต์จะไปบ้านเพื่อน แต่เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุได้ขี่รถหลบรถกระบะและเสียหลักล้มเอง ต่อมาชายคนดังกล่าวได้วิ่งมาช่วยตน โดยพยุงตนลุกขึ้นจากถนน และประคองตนโดยให้ตนพิงตัวของชายคนดังกล่าวไว้ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร และไม่ได้เป็นกู้ภัย พอเขาเข้ามาประคองตนก็ถามหนูว่ามีเบอร์แม่มั้ย และหนูชื่ออะไร จะโทรบอกแม่ให้ แต่หนูจำเบอร์แม่ไม่ได้ ก็เลยบอกเบอร์ตาให้ จากนั้นชายคนดังกล่าวก็โทรบอกตาว่าหนูประสบอุบัติเหตุ ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะพยุงหนูไว้ มีพี่ ๆ กู้ภัยมาช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล ส่วนในเรื่องที่ว่าชายคนดังกล่าวมาฉวยโอกาสจับหน้าอกหนูนั้น หนูคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร หนูคิดว่าเขาตั้งใจมาช่วย คงไม่มีเจตนาร้าย ๆ แน่นอน"ด.ญ.หน่อยกล่าว
loading...

555!! โชว์รวยอวดเงินเป็นฟ่อนในโซเชียล พอ ตร.ไปตรวจถึงกับผงะ นั่งหน้าสลอนกันเป็นแถว โดนเข้าให้ !???

loading...

 เสร็จตำรวจร้อยเอ็ดไปอีกราย แก๊งยาบ้าขายได้เงินมากมายแล้วโพสต์อวดรวย โชว์เงินเป็นกอง ทองเส้นโตในเฟซบุ๊ก ใช้ชื่อว่าเฒ่าแก่น้อย ขาวบ้านแจ้งเบาะแส ตามจับได้ยกแก๊ง 6 คน พบพฤติกรรมตัวหัวหน้า เรียนจบไปแล้วยังมาชวนรุ่นร้องร่วมค้ายานรก...  
เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 23 เม.ย.59 พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนปราณีต ผบก.ภ.จ.ร้อยเอ็ด แถลงข่าว จับกุมณัฐสิทธิ์ อัตตาชีวะ อายุ 24 ปี จบการศึกษาปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยมีชื่อใน จ.ร้อยเอ็ด มีพฤติกรรมชักนำรุ่นน้องกำลังศึกษาอยู่ปี 3 ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน ไปขายยาบ้า ได้เงินจำนวนมากแล้วโพสต์ภาพอวดความร่ำรวยทางเฟซบุ๊ก "เฒ่าแก่ น้อย" จนเป็นเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้โทษ ในกองกำลังพิทักษ์สาเกต สืบสวนจับกุมพร้อมลูกน้องร่วมแก๊งรวม 6 คน ยังเป็นนักศึกษา 2 คน
loading...




ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ติดตามตรวจยึดของกลาง เป็นยาบ้ารวมจำนวน 935 เม็ด เงินจากการขายยาบ้า 220,000 บาท ทองคำหนัก 1.50 บาท จักรยานยนต์บิ๊กไบค์ 4 คัน รถยนต์ 1 คัน ดำเนินดำเนินคดีข้อหาร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษเพื่อจำหน่าย
ส่วนนายณัฐสิทธิ์ ตัวการ หัวหน้าแก๊ง ถูกเพิ่มข้อกล่าวหาอีก 1 ข้อหา คือ ความผิดฐานฟอกเงิน เพราะเจ้าหน้าที่พบหลักฐานการโอนเงินไปให้ร้านขายของทุกชิ้น 20 บาทแห่งหนึ่งอยู่ใน อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด
ด้าน พล.ต.ต.ยงเกียรติ มนปราณีต ผบก.ภ.ร้อยเอ็ด กล่าวว่า ความสำเร็จในการจับแก๊งขายยาบ้าครั้งนี้ เกิดจากความร่วมมือของประชาชน ที่ชี้เบาะแส เริ่มต้นจากภาพเผยแพร่อวดความร่ำรวยของผู้ใช้ชื่อในเฟซบุ๊ก ว่า เฒ่าแก่ น้อย ซึ่งก็คือ นายณัฐสิทธิ์ อัตตาชีวะ .
loading...

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับรักที่ต้องปิดบัง.. เมื่อแฟนสาวนักบินดันเชียร์บาร์ซ่า

loading...
 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกซูเปอร์สตาร์ เรอัล มาดริด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก ลาลีกา สเปน ตกเป็นข่าวกำลังซุ่มคบหาดูใจกับ อเลฮานดรา มานริเกซ นักบินสาวชาวเม็กซิโก แต่ทว่าเธอดันเป็นแฟนบอล บาร์เซโลน่า เสี่ยนี่ จากรายงานของ thesun.co.uk เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2559
บรรดาสื่อในประเทศโปรตุเกส กำลังจับตามองความสัมพันธ์ระหว่าง "ซีอาร์7" และนักบินสาวชาวเม็กซิโก พร้อมกับประโคมข่าวว่าทั้งคู่อาจจะกำลังคบหาดูใจกันอยู่
โดยก่อนหน้านี้ มานริเกซ ได้โพสต์ภาพคู่กับ โรนัลโด้ ลงในอินสตาแกรมส่วนตัวพร้อมข้อความว่า "โชคดีที่ได้ขับเครื่องบินให้กับ CR7 หนึ่งในนักฟุตบอลที่ดีที่สุดของโลก!" แถมล่าสุดเจ้าตัวยังโพสต์รูปคู่กันอีกครั้งที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง จึงทำให้สื่อคาดการณ์ว่า นี่อาจจะเป็นการออกเดทของทั้งคู่
แต่หากเรื่องนี้เป็นความจริงต้องถือว่าความรักชนะทุกสิ่งจริง ๆ ก็เพราะนักบินสาวสวยรายนี้เป็นแฟนบอลตัวยงของ บาร์เซโลน่า ทีมคู่รักคู่แค้นของ เรอัล มาดริด ต้นสังกัดของ กัปตันทีมชาติโปรตุเกส
loading...





loading...

สาวคนนี้ อยู่ดีๆก็เป็นโรคประหลาดเนื้อเปื้อยไปทั้งตัว สุดทรามาน ไม่มีทางรักษา สุดท้ายต้องจบลงแบบนี้ ไม่น่าเลย

loading...

  เว็บไซต์  siamupdate ได้นำเรื่องราวของ "คริสทีน เหงียน" มาให้อ่านเธอคือ หญิงสาวชาวอเมริกันเชื้อสายเวียดนามวัย 27 ปี ที่ออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงชีวิตที่ต้องอยู่กับโรคเรื้อนกวางของเธอ จนทำให้ไม่สามารถทำกิจกรรมต่างๆได้อย่างปกติ แม้แต่การขยับเนื้อขยับตัวหรือมีเซ็กซ์ด้วย เธอได้เล่าเหตุการณ์น่ากลัวครั้งนี้ให้ฟังว่า เป็นโรคเรื้อนกวางมาตั้งแต่เด็ก โดยแพทย์วินิจฉัยพบตั้งแต่เมื่อเธออายุเพียง 10 ขวบ ซึ่งขณะนั้นสภาพก็ยังไม่ได้ดูแย่มากเท่าไหร่นัก จนกระทั่งเธอไปศัลยกรรมเพิ่มขนาดหน้าอกเมื่อ 2 ปีก่อน ที่เธอสังเกตได้ว่าพอ 4 เดือนให้หลัง อาการตัวเองกลับแย่ลง เป็นแผลพุพอง ขึ้นหนองมากกว่าเดิม   นอกจากนี้คริสทีนเองก็เกือบสัมพันธ์แตกหักกับเจอราร์ด แฟนหนุ่มที่คบกันมานานด้วย ทำให้เธอเครียดมากถึงขั้นที่เคยคิดฆ่าตัวตาย
"เริ่มตั้งแต่หน้าฉันพองขึ้น เสร็จแล้วก็มีหนองเหมือนโดนเผา   "อาบน้ำเองยังทรมานเลย ร่างกายฉันหมดแรงแล้ว แทบลุกออกจากเตียงไม่ได้เลยตลอด 4 เดือน หรือแค่จะเคี้ยวอาหารกินยังลำบากเลย เพราะหน้าอักเสบมาก จะมีอะไรกับแฟนก็ไม่ได้ด้วย" คริสทีนกล่าว
"ร่างกายฉันค่อยๆหายได้อย่างเร็วมาก แล้วก็ดีขึ้นเรื่อยๆได้ซัก 80 เปอร์เซ็นแล้ว เดี๋ยวเดือนตุลาก็จะกลับไปรักษาอีก คือฉันรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่เลย แหม่...อยากจะโดดขึ้นเตียงแล้วไปสนุกกับแฟนจัง" คริสทีนกล่าว
loading...

loading...

เรื่องจริง เฮกันทั้งประเทศ!!! หมอนวดเทวดา ช่วยผู้ป่วย “อัมพฤกษ์” เดินได้และ คนใบ้ กลับมาพูดได้. (ชมคลิป)

loading...
loading...

loading...

เด็ด ๆ ตลึง โชว์สายหื่นสัมผัสอิจฉา !! พริตตี้สาวสาวสวย กับมุมภาพจากตากล้องสุดหื่นชัดแจน ( ชมคลิป )

loading...

เรียกว่าเด็ด!! พริตตี้สาวจีนสาวสวย กับมุมภาพจากตากล้องสุดหื่น คลิปนี้สำหรับสายหื่นโดดเฉพาะเห็นแล้วซี๊ดกับเป็นแถวๆเลยครับ
loading...

loading...

แชร์สนั่น ! วิธีตรวจนมปลอม ใช้แฟลชส่องแล้วเรืองแสง แบบนี้ก็มีด้วย ?

loading...

    มีงี้ด้วยวิธีตรวจนมปลอม ให้เอาไฟฉายหรือแฟลชมือถือส่องในที่มืด งานนี้ซิลิโคนเรืองแสงทะลุออกมาเห็นเป็นก้อน ชาวเน็ตแชร์สนั่น ดูแล้วแอบชวนอึ้งไม่เบา

             ยุคนี้เรียกได้ว่าการทำศัลยกรรมกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว และหลายคนก็เนียนจนยากที่จะดูออกว่าเคยผ่านมีดหมอตรงส่วนไหนมาบ้างหรือเปล่า โดยหนึ่งในอวัยวะยอดฮิตที่สาว ๆ หลายคนเลือกทำศัลยกรรมก็คือการเสริมอึ๋ม อัพไซส์หน้าอกนั่นเอง ซึ่งการจะดูให้รู้ว่าใครทำหรือไม่ทำนั้น บางทีก็ยากจะแยกแยะได้จริง ๆ
    แต่ล่าสุด (23 เมษายน 2559) ดูเหมือนจะมีวิธีการตรวจสอบหน้าอกปลอมออกมาแล้ว เมื่อในโลกออนไลน์ ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอของสาวคนหนึ่ง ที่ออกมาสาธิตวิธีการ "ตรวจเช็กนมปลอม" โดยมีวิธีคือ ต้องปิดไฟในห้อง ก่อนเอาไฟฉายส่องไปที่หน้าอก....แม่เจ้า !! ซิลิโคนเป็นก้อน ๆ เรืองแสงโผล่ออกมาให้เห็นจะ ๆ 

loading...
/span>

  โดยงานนี้ก็มีคนคอมเม้นท์ที่คลิปดังกล่าว บอกว่าดูน่ากลัว บ้างก็ตั้งคำถามว่าแบบนี้เรียกว่านมหรือถุงชูชีพกันแน่ แล้วถ้าจะให้ไปตรวจสอบกับคนอื่นก็คงจะไม่มีใครให้คนอื่นเอาไฟฉายมาส่องหน้าอกตัวเองง่าย ๆ หรือเปล่า
     สำหรับกรณีดังกล่าวนั้น รศ. ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์  อาจารย์จากภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant  ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การทดสอบดังกล่าวสามารถทได้จริง ๆ ซึ่งถ้าชิ้นส่วนที่ใช้เสริมหน้าอกเป็นถุงน้ำเกลือนั้นจะยิ่งเห็นชัดกว่าแบบซิลิโคน แต่ถ้าเสริมถุงเข้าไปใต้ชั้นกล้ามเนื้อนั้น จะส่องไฟไม่เห็น



loading...

มรกต มณีฉาย อดีตดาวเซ็กซี่ตัวแม่ แฉเคยถูกนักการเมืองขอซื้อบริการ

loading...

        แอน มรกต มณีฉาย อดีตเซ็กซี่ตัวแม่ เผยเคยถูกเศรษฐีบรูไนจ้างไปเป็นเมียน้อย ให้เดือนละกว่า 1 ล้าน แถมยังมีนักการเมืองจู่โจมถึงห้อง ขอซื้อบริการ

           เป็นอีกหนึ่งนักแสดงสาวที่ถือว่าเป็นดาราเซ็กซี่ในตำนาน สำหรับ แอน มรกต มณีฉาย ที่เคยโด่งดังมาก ๆ กับฉายา "หน้าอกภูเขาไฟ" และหลังจากที่หายหน้าหายตาไปนาน ล่าสุดวันที่ 22 เมษายน 2559 เธอก็ได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการ ตัวจริงเสียงจริง ทางช่อง 2 ถึงกรณีกระแสข่าวลือว่า มรกต มณีฉาย ตกอับจนถึงขั้นต้องไปเป็นเมียน้อย-เมียเก็บ ?!?
      ทั้งนี้ มรกต มณีฉาย เผยว่า เธอมีชื่อเสียงจากหนังเรื่อง มังกรเจ้าพระยา ของ ฉลอง ภักดีวิจิตร และฉายาหน้าอกภูเขาไฟนั้น ก็มาจากอาฉลองเป็นคนตั้งให้ ก่อนหน้านั้นผลงานที่ผ่านมาก็จะมีการถ่ายภาพนู้ด เปลือย โนบรา ซึ่งมีทั้งปฏิทิน และนิตยสารต่าง ๆ โดยการที่ตนถ่ายภาพแนวนี้ ก็มีบ้างที่จะโดนสายตาดูถูก สงสัยว่าตนขายบริการ หรือเป็นเมียน้อยใครหรือเปล่า
loading...

              สำหรับกระแสข่าวลือว่าเป็นเมียน้อยนั้น มรกต มณีฉาย เผยว่า เคยได้รับการติดต่อจากเศรษฐีบูรไนจริง ซึ่งเขาติดต่อผ่านเอเย่นต์ โดยจะให้เป็นนางในฮาเร็ม ให้เงินเดือนเดือนละมากกว่า 1 ล้านบาท แต่เราก็ปฏิเสธไป ส่วนนักการเมืองก็มี เพราะช่วงนั้นได้ไปโชว์ตัวที่ต่างจังหวัด เขาก็มาจู่โจมถึงห้อง โดยให้คนสนิทมาบอกว่าพอเราเสร็จงานแล้วให้ลงมานั่งดริ๊งค์กับท่าน แต่พอเราเสร็จงานเราก็ไม่ได้ลงไป จนคนสนิทนักการเมืองคนเดิม ก็มาเคาะห้อง แต่เราก็แกล้งหลับ จนกระทั่งคนที่มาเคาะห้องก็ได้เงียบหายไป


loading...

ย่าวอนช่วยเหลือหลานป่วยโรคหัวบาตร ครอบครัวสุดลำบาก-รายได้น้อย

loading...

          ย่าวอนช่วยเหลือหลานป่วยโรคหัวบาตร ต้องพาไปทำแผลทุกวัน ครอบครัวแสนลำบากมีรายได้วันละ 200-300 บาท วอนโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ รับน้องเข้ารักษา
loading...
           วานนี้ (22 เมษายน 2559) นายเกรียงศักดิ์ แสงยุนนท์ นายอำเภอวังเหนือ จ.ลำปาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และผู้นำชุมชน ได้เข้าเยี่ยมอาการของ เด็กชายเกตน์ วงศ์ลอดแก้ว น้องเกตน์ อายุ 1 ขวบ ที่บ้านเลขที่ 40 ม.8 บ้านแม่เลียบ ต.ทุ้งฮั้ว อ.วังเหนือ จ.ลำปาง หลังพบว่าน้องเกนต์ป่วยเป็นโรคหัวบาตร หรือ ไฮโดรเซฟฟาลัส (HYDROCEPHALUS) พร้อมกันนี้ได้มอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัว โดยมีพ่อและแม่ของน้องเกตน์เป็นผู้รับมอบ

           ปัจจุบันน้องเกตน์ มีน้ำหนักตัวรวม 12 กิโลกรัม ร่างกายมีขนาดเล็กลง แต่ศีรษะโตขึ้น มีย่าวัย 61 ปีเป็นผู้ดูแลเนื่องจากพ่อและแม่ของน้องต้องออกไปทำงานรับจ้าง มีรายได้รวมทั้งคู่ตกวันละ 200-300 บาท จึงไม่สามารถดูแลลูกได้ ในตอนเช้าทุกวัน แม่และย่าจะพาน้องเกตน์ไปล้างแผลบริเวณท้ายทอย เนื่องจากเกิดเป็นแผลกดทับที่มีลักษณะเริ่มเป็นแผลลึก เพื่อไม่ให้แผลลุกลาม แต่ด้วยอากาศที่ร้อนและต้องนอนทับเกือบตลอดเวลา ทำให้แผลบริเวณศีรษะไม่หายสักที 
loading...

           ด้าน นางสุก วงศ์รอดแก้ว ผู้เป็นย่า เปิดเผยว่า ตนไม่สามารถทำงานหาเงินได้เพราะต้องคอยดูแลหลาน พยายามจะพลิกตัวให้เพราะกลัวแผลจะลามมากขึ้น ขณะที่พ่อและแม่ของน้องเกตน์ก็ต้องออกไปทำงานหาเงิน ขณะที่รายจ่ายค่าเลี้ยงดูน้องในแต่ละเดือนก็ปาเข้าไปอย่างน้อย 2 พันบาท ทั้งซื้อแพมเพิร์ส นม ข้าวโอ๊ต ทั้งยังต้องเสียค่ารถและค่าพยาบาลจากการพาน้องไปพบหมอทุกวัน จึงอยากวิงวอนให้ผู้มีเมตตาช่วยเหลือในการซื้อสิ่งของให้น้อง และหากโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ สามารถรักษาโรคนี้ได้ก็อยากขอให้รับน้องไปรักษา โดยทราบว่าที่โรงพยาบาลศิริราช สามารถทำการรักษาได้

           ทั้งนี้สำหรับผู้ที่ประสงค์จะร่วมบริจาคเงินให้ครอบครัวน้องเกตน์ เพื่อใช้ในการซื้อสิ่งของจำเป็น สามารถโอนเข้าบัญชี นางสุก วงศ์รอดแก้ว ธนาคาร ธ.ก.ส. สาขาวังเหนือ เลขที่บัญชี 020001851678

           อนึ่ง โรคหัวบาตร เป็นความผิดปกติที่มีน้ำในโพรงสมองมากเกินปกติ เนื่องจากท่อทางเดินน้ำหล่อเลี้ยงสมอง และไขสันหลังอุดตัน ทำให้น้ำที่อยู่ในสมองและไขสันหลังซึ่งปกติเป็นตัวคอยป้องกันเเละหล่อเลี้ยงสมองไม่ให้กดทับกับส่วนกะโหลก เกิดคั่งจนท่วมอยู่ในสมอง จนความดันในช่องสมองมีสูง ดันใต้ช่องสมองโตออกจนไปเบียดเนื้อสมอง และดันกะโหลกศีรษะให้โตออกจนมีขนาดใหญ่ผิดปกติ โดยอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคหัวบาตรได้ที่นี่ คลิก 

ภาพและข้อมูลจาก workpointtv.com
loading...

แทบช็อก!! มาปลุกลูกเห็นลูกตายคาโต๊ะคอม แต่เมื่อเห็นหน้าจอ ทำเอาต้องคิดอะไรให้มาก ไม่น่าเลย !???

loading...






loading...
หนุ่มวัย 27 ปี ลูกชาย จนท.เรือนจำหล่มสัก ฟุบดับคาโต๊ะคอมพ์ ขณะเล่นอินเทอร์เน็ต คาดหัวใจวายเฉียบพลัน ญาติไม่ติดใจการตาย นำศพบำเพ็ญกุศลทางศาสนา...
เมื่อเวลา 04.50 น. วันที่ 23 เม.ย. 59 พ.ต.ท.มิตร พุทธา พนักงานสอบสวนสภ.หล่มสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งเหตุคนเสียชีวิตที่บ้านพักเจ้าหน้าที่เรือนจำอำเภอหล่มสัก เลขที่ 93 ม. 5 ต. สักหลัง อ.หล่มสัก จึงพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลหล่มสักรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านพักของนายสุรศักดิ์ หล่อวิไล พนักงานขับรถประจำเรือนจำหล่มสัก
ที่เกิดเหตุบริเวณโต๊ะคอมพิวเตอร์ในห้องนอนชั้นล่าง พบศพนายกีรติ หล่อวิไล อายุ 27 ปี บุตรชายของนายสุรศักดิ์นั่งเก้าอี้ลักษณะนอนหงาย สวมเสื้อกีฬาแขนกุดสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำบริเวณด้านหน้าโต๊ะคอมพิวเตอร์หน้าจอเปิดอยู่ ตรวจสอบไม่พบบาดแผลหรือร่อง รอยการต่อสู้
สอบสวนนายสุรศักดิ์ หล่อวิไล อายุ 53 ปี บิดาผู้ตายให้การว่า ช่วงหัวค่ำวานนี้หลังจากที่ผู้ตายกลับจากเล่นกีฬาจึงมาอาบน้ำและรับประทาน อาหารเย็นร่วมกัน กระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น. ผู้ตายได้มาเล่นเกมส์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตที่คอมพิวเตอร์ภายในห้อง ส่วนตนขึ้นไปนอนบนห้องนอนชั้นสอง กระทั่งเช้ามืดจึงลงมาข้างล่างพบผู้ตายนอนหงายอยู่บนเก้าอี้ จึงไปปลุกตื่นกลับพบว่าผู้ตายเสียชีวิตไปแล้ว จากนั้นจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ เบื้องต้นแพทย์ระบุผู้ตายเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน ญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตจึงมอบศพให้ไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป
loading...

เจอตัวแล้ว! หลังโดนด่าเป็นกู้ภัยหื่น ยันเอาเรื่องแชร์มั่ว ที่แท้เรื่องราวเป็นแบบนี้ อ่านแล้วจะรู้เลย

loading...

 จากกรณีเมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้มจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ คือ ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ได้รับบาดเจ็บ ขาหัก ซึ่งหลังจากเกิดได้มีผู้พบเห็นเข้าไปช่วยเหลือ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นชายอายุประมาณ 30-40 ปี สวมเสื้อโปโลสีดำ สวมกางเกงยีนส์ขายาว เป็นผู้เข้าไปช่วยเหลือเป็นคนแรก ๆ และเป็นผู้โทรศัพท์แจ้งไปยังญาติของเด็กให้ทราบถึงอุบัติเหตุให้เกิดขึ้น แต่เรื่องราวกลับใหญ่โต เมื่อมีการนำภาพขณะทำการช่วยเหลือปฐมพยาบาลเด็กหญิง ลงในเฟสบุ๊ก จนมีการเผยแพร่ไปเพจต่างในด้านลบ ซึ่งมีหลายที่ระบุว่าผู้ที่ช่วยเหลือเป็นอาสาสมัครกู้ภัย บางทีระบุว่าเป็นกู้ภัยหื่น 
loading...

 โดยภาพที่เป็นต้นเรื่องนั้น ชายคนดังกล่าวกำลังพยุงและประคองเด็กหญิง ไว้ลักษณะให้พิงกับตนเอง โดยใช้มือซ้ายกดโทรศัพท์ ส่วนมือขวาประคองในลักษณะฝ่ามืออยู่ที่บริเวณข้างหน้าอกของเด็กหญิงหน่อย ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชี่ยลอย่างรุนแรง ว่า ฉวยโอกาส มีการใช้คำว่าอาสาสมัครกู้ภัยหื่น ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่จังหวัดอ่างทองต่าง มึนงงไปตาม ๆ กัน เนื่องจากชายคนดังกล่าวนั้น ไม่มีใครทราบว่าเป็นใคร และไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยใน จ.อ่างทอง จนทำให้ทางสมาคมวีอาร์กู้ภัยจังหวัดอ่างทอง โดยนายมณเทียร อ่อนสกุล นายกสมาคมฯ ได้เข้าลงบันทึกประจำวันว่าชายคนดังกล่าว ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยของสมาคมฯ




ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อชายคนดังกล่าวได้แล้ว ทราบชื่อ คือ นายสุรชัย เฉลยวรรณ อายุ 35 ปี จ.อ่างทอง โดยนายสุรชัย ได้กล่าวว่า ตนมีอาชีพเป็นพ่อค้าขายเมี่ยงปลาอยู่ที่หน้าบ้านตัวเอง วันเกิดเหตุ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน มุ่งหน้าไปซื้อปลาที่ตลาด ระหว่างทางพบเด็กหญิงประสบอุบัติเหตุรถล้ม ตนจึงจอดรถและเข้าไปช่วยเหลือโดยมีผู้หญิงเข้ามาช่วยอีก 1 คน ซึ่งช่วงนั้นอากาศกำลังร้อนระอุ จึงรีบเข้าไปช่วยประคองเด็กเข้าข้างทาง ซึ่งช่วงนั้นเด็กหญิงบี กำลังใช้โทรศัพท์อยู่ ตนยังถามเด็ก ว่าโทรบอกพ่อแม่หรือยัง เด็กหญิงบี บอกว่าโทรศัพท์โทรออกไม่ได้ หมดโปรอยู่ จึงขอเบอร์ญาติและโทรศัพท์ติดต่อญาติให้ ซึ่งมือหนึ่งก็โทรศัพท์ อีกมือก็ประคองเด็กไว้ จนเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาถึง ก็ช่วยกันปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาล 
"จากนั้นมาตนก็ไม่ได้รู้ข่าวสารอะไรเลย เพราะตนไม่ได้เล่นโซเชี่ยล จนกระทั่งเมื่อเช้าที่ผ่านมา มีข่าวออกและเพื่อนบ้านนำข้อความทางโซเชี่ยลมาให้ตนดู บอกเลยว่ารู้สึกเสียใจมาก เสียความรู้สึก ครั้งต่อไปหากเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็ไม่อยากจะเข้าไปช่วยใครแล้ว ขอยืนยันเลยว่า ไม่ได้ไปจับหน้าอกเด็ก แต่สงสารเด็กที่ประสบอุบัติเหตุแล้วยังไม่มีใครเข้าไปช่วย จึงเข้าไปช่วย จะปล่อยให้เด็กนอนอยู่กลางถนนที่กำลังร้อนอย่างนั้นหรืออย่างไร ก็จำเป็นต้องประคองไว้ ขนาดรองเท้าตนยังถอดให้เด็กรองนั่ง เพราะพื้นถนนร้อนมาก ซึ่งตอนนี้กำลังปรึกษาพี่ซึ่งเป็นทนาย จะดำเนินการฟ้องร้องเพจ เว็บไซต์ หรือบุคคลที่กล่าวหาให้ตนเสียหาย"นายสุรชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ทำการสัมภาษณ์นายสุรชัยนั้น นายสุรชัย มีท่าทีไม่พอใจ และมีอารมณ์โกรธแค้นเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
loading...

7 เรื่อง ของลับ ไม่ลับ ที่ผู้ชายไม่เคยรู้

loading...
 ตว์บางชนิดในปัจจุบัน และสภาพบางอย่างเช่น "โด่ไม่รู้ล้ม" หรือ กลางคืนไม่หลับไม่นอน แท้จริงแล้วเป็นปัญหาหรือไม่ "เครื่องเพศ" แม้จะถูกเก็บอยู่ในหมวดของลับของสงวน แต่การทำความรู้จักในฐานะอาวุธสืบเผ่าพันธุ์ ก็มีความจำเป็นไม่น้อย

ที่จริงแล้ว "ระบบสืบพันธุ์" เป็นส่วนที่มีการศึกษากลไกต่างๆ อยู่มากมาย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง "องคชาต" นับได้ว่าเป็นอวัยวะมนุษย์ ที่มีการทำวิจัยศึกษากันไม่น้อย แต่เรื่องราวของ "ช้างน้อย" กลับไม่ค่อยได้รับการเปิดเผยมากนัก "ผู้จัดการวิทยาศาสตร์" จึงนำข้อมูลจาก "ไลฟ์ไซน์" (livescience.com) และ "เมนส์เฮล์ธ" (Menshealth.com) มานำเสนอ เพื่อทำความรู้จักในบางแง่มุมของสิ่งที่มนุษย์หลายคนเรียกว่า "เจ้าโลก"
loading...


คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
7 เรื่อง ของลับ ไม่ลับ ที่ผู้ชายไม่เคยรู้
ขนาดใครว่าไม่สำคัญ โดยเฉพาะขนาดของอวัยวะสืบพันธุ์มีส่วนต่อการเลือกคู่

1.ไซส์ไหนใช่มาตรฐาน

แน่นอนว่า เมื่อเอ่ยถึง "องคชาต" ประเด็นแรกที่มักจะได้รับการถกเถียง สำรวจ วิจัยกันอย่างมากที่สุดก็คือเรื่องของ "ขนาด" ซึ่งมีการเก็บตัวอย่างมากมายหลายครั้ง และครั้งนี้ไลฟ์ไซน์ได้อ้างข้อมูลจากวารสารเซ็กซัวล์ เมดิซีน (Journal of Sexual Medicine) ที่สำรวจผู้ชายจำนวน 1,661 คน ซึ่งมีความหลากหลายทางเชื้อชาติและรูปร่าง พบว่า ค่าเฉลี่ยของอวัยวะเพศชายเมื่อแข็งตัว จะมีความยาวประมาณ 5.56 นิ้ว (14 ซม.)

ความยาวองคชาตที่วัดจากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดนี้ วัดเมื่อขณะแข็งตัวซึ่งมีความยาวตั้งแต่ 1.6 นิ้ว (4 ซม.) จนถึง 10.2 นิ้ว (26 ซม.) และไม่ใช่ว่าการแข็งตัวทุกครั้งจะมีความยาวเท่ากัน จากผลการสำรวจนี้ชี้ว่า หากน้องชายถูกกระตุ้นด้วยการร่วมเพศแบบออรัลเซ็กซ์ หรือ มีการสอดใส่จะมีขนาดที่ใหญ่กว่า การถูกกระตุ้นด้วยการจินตนาการเพียงฝ่ายเดียว

ทั้งนี้ การแข็งตัวของอวัยวะเพศชาย ก็คือการที่หลอดเลือดบริเวณองคชาตขยายตัว ทำให้ปริมาณเลือดไหลเวียนไปที่จุดดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ การศึกษาชิ้นอื่นๆ ยังชี้ว่า การสูบบุหรี่มีผลทำให้ปริมาณเลือดไหลที่ไปจุดดังกล่าวลดลง ซึี่งส่งผลให้อวัยวะเพศขยายตัวน้อยลงประมาณ 0.4 นิ้ว (1 ซม.) ดังนั้นการสูบบุหรี่ไม่ใช่แค่ทำร้ายปอด แต่ทำอันตรายลึกไปถึงกล่องดวงใจด้วย

2. "ขนาด" ใครคิดว่าไม่สำคัญ

คงไม่มีใครปฏิเสธว่า ความ "เล็ก-ใหญ่" ของเครื่องเพศนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่อต้องลงสนามปฏิบัติภารกิจ เพราะผู้หญิงที่ถึงจุดกระสันต์ในช่องคลอดนั้น จะสำเร็จได้ง่าย หากอวัยวะของฝ่ายชายมีความยาวกว่า จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ในปี 2012 ของวารสารเซ็กซัลว์ เมดิซีน

อย่างไรก็ดี ยังไม่มีการวิจัยชี้ชัดว่า ทำไมองคชาตที่ยาวกว่าถึงกระตุ้นช่องคลอดและปากมดลูกของฝ่ายหญิงได้ดีกว่า แต่ช่วยให้ฝ่ายชายสามารถปล่อยสเปิร์มเข้าสู่ช่องคลอดได้ดีกว่า

เมื่อใหญ่กว่าย่อมดีกว่า ทำให้ผู้หญิงนิยมที่จะเลือกชายร่างใหญ่ไว้ก่อน เพื่อความสบายใจ โดยผลการศึกษาปี 2013 ซึ่งลงรายละเอียดในเอกสารการประชุมวิชาการสภาวิทยาศาสตร์ สหรัฐฯ (Proceedings of the US Academy of Sciences) รายงานว่า ผู้หญิงมักจะเลือกผู้ชายที่ตัวสูงไว้ก่อน โดยเฉพาะสัดส่วนจากไหล่ถึงสะโพก เพราะเชื่อว่าจะมีขนาดน้องชายใหญ่กว่า และสร้างความสุขสมได้มากกว่าผู้ชายที่ตัวเตี้ย


คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
7 เรื่อง ของลับ ไม่ลับ ที่ผู้ชายไม่เคยรู้
3. "ข้าวเหนียว" หรือ "ข้าวเจ้า"

เมื่อสำรวจขนาดของ "น้องชาย" ในยามสงบอาจจะก็ไม่มีทางที่จะทำนายได้เลยว่า เมื่อถึงเวลาปฏิบัติการแล้วอาวุธของแต่ละนายจะขยายได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งการขยายตัวขององคชาตเมื่อเกิดความต้องการทางเพศ มีอยู่ 2 แบบคือ 1.องคชาตจะขยายตัวและยาวขึ้นมากกว่าเดิม (grower หรือ ข้าวเจ้า) และ 2.องคชาตจะขยายตัวและยาวไม่ต่างไปจากสภาพปกติ (shower หรือ ข้าวเหนียว)

นิตยสารเมนส์เฮล์ธ ได้สำรวจผู้ชายทั่วโลก (ไม่ได้ระบุจำนวนกลุ่มตัวอย่าง) พบว่า 79% เป็นพวกข้าวเจ้า และอีก 21% เป็นพวกข้าวเหนียว

นอกจากนี้ ยังมีสถิติระบุระยะเวลาในการถึงจุดสุดยอดไว้ว่า ในผู้ชายจะใช้เวลาสุขสมกับความรู้สึกนั้นนานที่สุด 6 วินาที ขณะที่ผู้หญิงจะคงความรู้สึกนี้ไว้ได้นานถึง 23 วินาที จากสถิตินี้ทำให้มีการกระเซ้าถึงผู้หญิงที่รักความเท่าเทียมว่า ถ้าเช่นนั้นควรปล่อยให้คู่นอนได้สำเร็จความใคร่ถึง 4 ครั้ง จึงจะใช้เวลาแห่งความสุขสมได้ยาวนานพอๆ กัน

4. เพราะมันเคยมี "กระดูก"

วิวัฒนาการของ "เจ้าโลก" นั้นเปลี่ยนไปมากมาย โดยช่วงหนึ่งองคชาตของมนุษย์มีกระดูกแกนกลาง แต่บรรพบุรุษได้ละทิ้ง "เดือย" ไว้ในช่วงวิวัฒนาการตั้งแต่ก่อนมนุษย์นีอันเดอร์ทัล (Neanderthals) และลักษณะของมนุษย์ยุคปัจจุบันก็แตกต่างไปจาก 700,000 ปีก่อนมาก ตามรายงานการวิจัยที่ตีพิมพ์ลงวารสารเนเจอร์ (Nature) ปี 2010

นักวิทยาศาสตร์ไม่แน่ใจว่า กระดูกในองคชาตของมนุษย์โบราณนั้นมีหน้าที่อะไร แต่อาจจะเป็นได้ว่าเพื่อให้เกิดมีเพศสัมพันธ์อย่างรวดเร็ว เพราะจะช่วยให้อัวยวะเพศแข็งตัวได้เร็วกว่าหากไม่มีกระดูก ซึ่งกระดูกในตำแหน่งเดียวกันนี้ก็ปรากฎอยู่ในสัตว์หลายชนิด ในปัจจุบันอย่างเช่น แมว หรือ สุนัข

อย่างลิงเอปส์ก็มีท่อนกระดูกที่องคชาต กระดูกชิ้นนี้ช่วยให้อวัยวะแข็งตัว ขณะที่มนุษย์ไม่มี โดยกลไกการแข็งตัวพึ่งพาแต่จากแรงดันเลือด ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจว่าทำไมกระดูกชิ้นนี้ในมนุษย์เพศชายถึงหายไป

เรื่องนี้ ริชาร์ด ดอว์กินส์ (Richard Dawkins) นักชีววิทยาได้เขียนอธิบายไว้ในหนงสือที่ชื่อแปลเป็นไทยได้ว่า "ยีนเห็นแก่ตัว" ("The Selfish Gene" ; Oxford University Press, 2006) ที่วิวัฒนาการมนุษย์เลือกที่จะไม่มีกระดูกในองคชาตนั้น ก็เพราะต้องการให้เพศหญิงได้ประเมินภาวะสุขภาพของคู่ เพราะหากร่างกายไม่แข็งแรง เลือดลมไม่ปกติ ก็จะไม่สามารถแข็งตัว อันนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ได้

5. "ตื่น" ยามวิกาล

ไม่ว่าจะเป็นหนุ่มโสดหรือหนุ่มไม่สด ในยามกลางคืนก็เวลาที่ "องคชาต" ทำงาน ในบางคนน้องชายอาจแข็งตัวได้ 3-5 ครั้งต่อคืน โดยอยู่ในช่วงการหลับแบบ REM (rapid eye movement) ซึ่งเป็นช่วงที่กำลังฝัน โดยไม่ว่าจะฝันถึงเรื่องวาบหวิวหรือไม่ก็ตาม

การตื่นตัวของน้องชายในยามหลับฝันนี้ ช่วยคงรูปขององคชาต เพราะหากไม่ได้แข็งตัวตามปกติ อาจเกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพ และอาจร้ายแรงถึงกับหดตัวได้ นี่ถือเป็นกระบวนการทางสรีรศาสตร์ ซึ่งแพทย์มักสอบถามผู้ชายถึงสภาพการตื่นตัวในยามวิกาล ก็เพื่อวิเคราะห์ถึงเหตุอาการแข็งตัวผิดปกติขององคชาตได้

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
7 เรื่อง ของลับ ไม่ลับ ที่ผู้ชายไม่เคยรู้

6. องคชาตผิิดปกติ

ปัญหาผิดปกติที่พบมากที่สุดก็คือ การช่วยตัวเองหรือมีเซ็กซ์อย่างรุนแรง จนทำให้เกิดบาดเจ็บ หรือจนกระทั่งองคชาตหัก

ส่วนอีกปัญหาหนึ่ง ที่พบเช่นกันคือ "ภาวะองคชาตแข็งค้าง" (priapism) โดยเจ้าน้องชายจะแข็งตัวต่อเนื่องเป็นเวลานานมากกว่า 4 ชั่วโมง แม้ไม่ได้รับการกระตุ้นแล้ว ซึ่งอาการโด่ไม่รู้ล้ม ที่ฟังดูเหมือนจะดี แต่กลายเป็นปัญหาก็เพราะว่า ปริมาณเลือดที่มาคั่งเมื่อยามถูกกระตุ้น ไม่สามารถไหลกลับคืนสู่ร่างกายได้ ซึ่งอาการนี้อาจเกี่ยวข้องกับโรคโลหิตจาง (sickle-cell anemia) หรือ โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (ลิวคีเมีย)

สภาวะดังกล่าวถือเป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ ซึ่งต้องฉีดซูโดอีไพน์ฟรีน (pseudoepinephrine) เพื่อให้กล้ามเนื้อเรียบขององคชาตหดตัว

ยังมีความผิดปกติอีกกรณีที่เกิดน้อยมาก ก็คือการมีองคชาต 2 อันติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด ตามสถิติมีโอกาสเป็นได้ทุกๆ 5-6 ล้านคน ซึ่งการมีองคชาต 2 อันนี้เรียกว่า "ไดฟาลลัส" (diphallus) และแน่นอนว่า การมีมากกว่าคนปกติไม่น่าจะเป็นเรื่องดี ซึ่งส่วนใหญ่เลือกที่จะตัดทิ้งเหลือเพียงอันเดียว


คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
7 เรื่อง ของลับ ไม่ลับ ที่ผู้ชายไม่เคยรู้
หนังหุ้มปลายองคชาตที่ยังไม่ได้ขริบ(ซ้าย) และที่ขริบแล้ว (ขวา) (ภาพ howstufworks)
7. ความจริงของหนังหุ้มปลาย


เด็กเมืื่อเกิดใหม่ เนื้อเยื่อบริเวณหนังหุ้มปลายองคชาต จะเป็นตัวเชื่อมส่วนหัวของลึงค์ โดยในท้องแม่ เนื้อเยื่อในเพศชายจะพัฒนาเป็นหนังหุุ้มองคชาต ขณะที่เพศหญิงจะพัฒนาเป็นกลีบคลุมปุ่มกระสันต์ (clitoral hood)

ด้านในของหนังหุ้มปลายองคชาตเป็นชั้นเยื่อเมือกที่เหมือนกับภายในหนังตาและภายในปาก ซึ่งมีสภาพชุ่มชื้น สภาวะแบบนี้ช่วยเพิ่มอัตราการติดต่อโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้่ชายที่ไม่ได้ขลิบหนังหุ้มปลายองคชาต

ทั้งนี้ ที่บริเวณหนังหุ้มปลายนั้นมีเซลส์แลงเกอร์ฮานส์ (Langerhans cells) อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นเซลส์ที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน และเชื้อเอชไอวี (HIV) จะแทรกซึมผ่านทางเซลส์นี้ นั่นเลยอธิบายได้ว่า ในชายแอฟริกันที่ขริบแล้ว จะมีอัตราติดเชื้อเอชไอวีต่ำกว่า 60% เมื่อมีเพศสัมพันธ์กับเพศตรงข้าม

ขณะที่สถาบันกุมารเวชศาสตร์อเมริกัน (American Academy of Pediatrics) ไม่ได้สนับสนุนหรือห้ามการขริบ เพียงแต่ตั้งข้อสังเกตว่า การขริบมีทั้งข้อดีและความเสี่ยง แต่มีนักเคลื่อนไหวออกมาค้านการขริบ โดยอ้างการศึกษาว่า การขริบทำให้ผู้ชายมีความสุขทางเพศน้อยลง แต่รายงานชิ้นนี้ก็ยังไมได้รับการยอมรับ เพราะถูกตั้งข้อสงสัยว่าระเบียบวิธีวิจัยมีปัญหาและอคติ

ที่น่าสนใจคือ แพทย์สามารถปลูกผิวหนังของผู้ที่ถูกไฟไหม้ด้วยหนังหุ้มปลายองคชาต ที่ขริบจากเด็กทารก ซึ่งหนังหุ้มปลายของเด็กคนเดียวสามารถเพาะเลี้ยงจนกลายเป็นผิวหนังที่มีพื้นที่ 23,000 ตารางเมตร มากพอที่จะคลุมสนามกีฬาขนาดใหญ่ได้ทั้งสนาม
loading...
loading...