loading...
ย่าวอนช่วยเหลือหลานป่วยโรคหัวบาตร ต้องพาไปทำแผลทุกวัน ครอบครัวแสนลำบากมีรายได้วันละ 200-300 บาท วอนโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ รับน้องเข้ารักษา
loading...
วานนี้ (22 เมษายน 2559) นายเกรียงศักดิ์ แสงยุนนท์ นายอำเภอวังเหนือ จ.ลำปาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และผู้นำชุมชน ได้เข้าเยี่ยมอาการของ เด็กชายเกตน์ วงศ์ลอดแก้ว น้องเกตน์ อายุ 1 ขวบ ที่บ้านเลขที่ 40 ม.8 บ้านแม่เลียบ ต.ทุ้งฮั้ว อ.วังเหนือ จ.ลำปาง หลังพบว่าน้องเกนต์ป่วยเป็นโรคหัวบาตร หรือ ไฮโดรเซฟฟาลัส (HYDROCEPHALUS) พร้อมกันนี้ได้มอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัว โดยมีพ่อและแม่ของน้องเกตน์เป็นผู้รับมอบ
ปัจจุบันน้องเกตน์ มีน้ำหนักตัวรวม 12 กิโลกรัม ร่างกายมีขนาดเล็กลง แต่ศีรษะโตขึ้น มีย่าวัย 61 ปีเป็นผู้ดูแลเนื่องจากพ่อและแม่ของน้องต้องออกไปทำงานรับจ้าง มีรายได้รวมทั้งคู่ตกวันละ 200-300 บาท จึงไม่สามารถดูแลลูกได้ ในตอนเช้าทุกวัน แม่และย่าจะพาน้องเกตน์ไปล้างแผลบริเวณท้ายทอย เนื่องจากเกิดเป็นแผลกดทับที่มีลักษณะเริ่มเป็นแผลลึก เพื่อไม่ให้แผลลุกลาม แต่ด้วยอากาศที่ร้อนและต้องนอนทับเกือบตลอดเวลา ทำให้แผลบริเวณศีรษะไม่หายสักที
loading...
ด้าน นางสุก วงศ์รอดแก้ว ผู้เป็นย่า เปิดเผยว่า ตนไม่สามารถทำงานหาเงินได้เพราะต้องคอยดูแลหลาน พยายามจะพลิกตัวให้เพราะกลัวแผลจะลามมากขึ้น ขณะที่พ่อและแม่ของน้องเกตน์ก็ต้องออกไปทำงานหาเงิน ขณะที่รายจ่ายค่าเลี้ยงดูน้องในแต่ละเดือนก็ปาเข้าไปอย่างน้อย 2 พันบาท ทั้งซื้อแพมเพิร์ส นม ข้าวโอ๊ต ทั้งยังต้องเสียค่ารถและค่าพยาบาลจากการพาน้องไปพบหมอทุกวัน จึงอยากวิงวอนให้ผู้มีเมตตาช่วยเหลือในการซื้อสิ่งของให้น้อง และหากโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ สามารถรักษาโรคนี้ได้ก็อยากขอให้รับน้องไปรักษา โดยทราบว่าที่โรงพยาบาลศิริราช สามารถทำการรักษาได้
ทั้งนี้สำหรับผู้ที่ประสงค์จะร่วมบริจาคเงินให้ครอบครัวน้องเกตน์ เพื่อใช้ในการซื้อสิ่งของจำเป็น สามารถโอนเข้าบัญชี นางสุก วงศ์รอดแก้ว ธนาคาร ธ.ก.ส. สาขาวังเหนือ เลขที่บัญชี 020001851678
อนึ่ง โรคหัวบาตร เป็นความผิดปกติที่มีน้ำในโพรงสมองมากเกินปกติ เนื่องจากท่อทางเดินน้ำหล่อเลี้ยงสมอง และไขสันหลังอุดตัน ทำให้น้ำที่อยู่ในสมองและไขสันหลังซึ่งปกติเป็นตัวคอยป้องกันเเละหล่อเลี้ยงสมองไม่ให้กดทับกับส่วนกะโหลก เกิดคั่งจนท่วมอยู่ในสมอง จนความดันในช่องสมองมีสูง ดันใต้ช่องสมองโตออกจนไปเบียดเนื้อสมอง และดันกะโหลกศีรษะให้โตออกจนมีขนาดใหญ่ผิดปกติ โดยอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคหัวบาตรได้ที่นี่ คลิก
ภาพและข้อมูลจาก workpointtv.com
loading...