ศาลสั่งห้ามประกันตัวผู้ใหญ่บ้าน คดีน้องสโนว์ สั่งสอบวินัย-งดจ่ายเงินเดือน

ศาลสั่งห้ามประกันตัว นายกฤติเดช ระเวงวรรณ ผู้ต้องหาคดีข่มขืนและทำร้ายร่างกายน้องสโนว์ พร้อมสั่งสอบวินัยร้ายแรง พักงานและงดจ่ายเงินเดือนแล้ว ด้านผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธ

จากกรณีเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่คนร้ายพยายามข่มขืน น้องสโนว์ เด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.6 วัย 18 ปี ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งน้องสโนว์พยายามขัดขืนคนร้ายจนรอดมาได้แต่ถูกทำร้ายร่างกายสาหัสจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับตัวผู้ต้องสงสัยคือ นายกฤติเดช ระเวงวรรณ ผู้ใหญ่บ้านสีถาน จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2559 นั้น [อ่านข่าว : ผู้ใหญ่บ้านฆาตกรฆ่าน้องสโนว์ ยังปากแข็งไม่ยอมรับผิด พบรอยฟันกัด-รอยข่วน]

ล่าสุด (7 เมษายน 2559) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 ได้รายงานความคืบหน้าคดีดังกล่าวว่า นายกฤติเดช ยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ทั้งกรณีรอยกัดที่นิ้วหัวแม่มือขวาที่นายกฤติเดช ให้การว่าถูกหนูนากัด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าเป็นรอยกัดของมนุษย์ไม่ใช่รอยกัดของสัตว์, รอยขีดข่วนตามร่ายกาย และกางเกงในที่พบในบ้านของผู้ต้องหามีเศษดินและเศษหญ้าที่ตรงกับในที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะหลักฐานสำคัญอย่างรถจักรยานยนต์ที่มีร่องรอยการชนตรงกับรถของน้องสโนว์

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์พร้อมกับคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญ โดยวานนี้ (6 เมษายน 2559) พ.ต.อ. วันชัย รณชาติชัย ผกก.สภ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ได้ส่งตัวผู้ต้องหาไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์เรียบร้อยแล้ว และในทางคดีความก็มีพยานทยอยเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนอีกประมาณ 2-3 ราย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี โดยก่อนหน้านี้พยานส่วนใหญ่ไม่กล้าให้ปากคำเพราะกลัวจะเป็นอันตราย ซึ่งคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถฝากขังผู้ต้องหาได้ 7 ครั้ง รวม 84 วัน และหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนคดีส่งอัยการเพื่อส่งฟ้องศาลต่อไป

ทั้งนี้หลังจากมีการจับตัวผู้ต้องหาได้ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เริ่มกลับมาคึกคักเหมือนเดิม เนื่องจากก่อนหน้านี้ต่างมีความกังวลในความปลอดภัย รวมทั้งมีการติดป้ายว่า ผู้ที่ข่มขืนคนอื่นต้องรับโทษประหารชีวิต

ขณะที่ นายวินัย วิทยานุกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการจับกุมนายกฤติเดช ระเวงวรรณ ผู้ใหญ่บ้านสีถานได้นั้น ถือเป็นการผิดวินัยร้ายแรง จึงได้สั่งสอบวินัยร้ายแรง ให้พักงานและงดจ่ายเงินเดือนแล้ว แม้ว่านายกฤติเดชจะยังปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาก็ตาม