สาวบินศัลยกรรมที่เกาหลี แต่ผลออกมาเหมือนฝันร้าย ทำเอาอยากตาย

สาวโพสต์อุทาหรณ์ บินทำศัลยกรรมที่เกาหลี แต่ผลออกมาเป็นเหมือนฝันร้ายที่ทำเอาอยากตาย ชี้ทำจมูกเบี้ยว แก้หลายรอบก็ไม่หาย เอเจนซี่ไม่รับผิดชอบ บอกใครคิดจะทำขอให้คิดดี ๆ

ในขณะที่การศัลยกรรมเสริมความงามได้กลายมาเป็นเทรนด์ฮิตของสาว ๆ ในยุคนี้ ประกอบกับกระแสความฮือฮาในความสามารถของแพทย์เกาหลี ที่สามารถศัลยกรรมเปลี่ยนสาวหน้าบ้าน ๆ ให้กลายเป็นนางฟ้าได้ ทำให้มีสาว ๆ อีกไม่ใช่น้อยที่ฝันอยากจะบินไปศัลยกรรมที่เกาหลีดูสักครั้ง

แต่เชื่อเลยว่าหากทุกคนได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเพื่อนของ คุณ missplathong สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ได้นำประสบการณ์ศัลยกรรมที่เป็นเหมือนฝันร้ายมาถ่ายทอดผ่านกระทู้ "ศัลกรรมเกาหลี ที่ทำให้เราอยากตาย" เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2559 อาจจะทำให้สาว ๆ ต้องคิดทบทวนดูอีกรอบ เพราะความเสี่ยงกับผลลัพธ์ที่ได้นั้นช่างมีมากเหลือเกิน

โดยเจ้าของเรื่องซึ่งนำชื่อล็อกอินของเพื่อนมาใช้ เผยว่า เธอเป็นคนหนึ่งที่ผ่านการทำศัลยกรรมมาเยอะ และชอบลงรูปในเฟซบุ๊ก จนวันหนึ่งก็ได้มีเอเจนซี่ที่ส่งคนทำศัลยกรรมที่เกาหลีติดต่อเข้ามา บอกว่าจะเมคโอเว่อร์หน้าให้เธอฟรี ๆ เพื่อเป็นโมเดลแก่โรงพยาบาลศัลยกรรมชื่อดังในเกาหลี โดยมีการเซ็นสัญญากันก่อนไป ทำให้เธอตอบตกลงในที่สุด และตั้งความหวังไว้อย่างมาก

    นี่คือรูปก่อนทำศัลยกรรม (แบบใช้แอพแต่งรูปแล้ว)

               หลังจากบินมาที่เกาหลีแล้ว ทางโรงพยาบาลก็แจ้งว่าเธอจะต้องผ่าตัดใหญ่ 2 ครั้ง ซึ่งแม้ว่าการผ่าตัดจะเจ็บปวดมาก แต่เธอก็ทนเพราะหวังจะสวยขึ้น แต่แล้วต่อมากลับพบว่าจมูกของเธอเบี้ยว ทำให้แพทย์ต้องผ่าตัดแก้ โดยแก้ทั้งตา จมูก ดึงหน้า และเลื่อนกระดูกคาง

               เธอต้องทนรักษาตัวอยู่ที่เกาหลีโดยห้ามโพสต์รูปใด ๆ ทั้งสิ้น แต่แล้วหลังจากพักฟื้นก็ปรากฏว่าจมูกของเธอนั้นผิดรูปอย่างชัดเจน ทำให้ต้องผ่าตัดแก้อีกครั้ง ก่อนจะให้เธอกลับมาที่ไทย อย่างไรก็ตามด้วยใบหน้านี้ทำให้เธอผิดหวังมาก และอยากตาย เธอจึงตัดสินใจบินกลับไปถามว่าทำไมเป็นแบบนี้ ซึ่งแพทย์ก็บอกว่าโครงหน้าของเธอเบี้ยว ไม่ใช่จมูกเบี้ยว ซึ่งในครั้งนี้แพทย์ก็แก้ไขเพียงฉีดไขมันจมูกให้ แก้แบบลวก ๆ และให้เธอกลับมารออีก

เธอเฝ้ารออย่างอดทนอยู่หลายเดือนเพราะคิดว่าหน้าจะดีขึ้น แต่ปรากฏว่าปลายจมูกกลับใสจนแทบจะทะลุ แต่พอแจ้งเรื่องไปทางโรงพยาบาลกลับบอกว่ามีสิทธิ์ทะลุน้อย เธอจึงซื้อตั๋วเครื่องบินเตรียมกลับไปแก้ แต่คนรอบข้างกลับบอกว่าไม่ไหวแล้ว จากนั้นเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา เธอก็ตัดสินใจไม่อยากเป็นหนูลองยาอีก จึงไม่ขอไปแล้ว แต่ทางโรงพยาบาลกลับเอาสัญญามาขู่ ทั้งที่เธอกลัวตาย

           แต่เมื่อนำเรื่องไปถามเอเจนซี่ที่เคยพาไป ฝ่ายนั้นกลับบอกว่าไม่มีคอนแทคกับโรงพยาบาลนี้แล้ว ปล่อยให้เธอลอยแพ ไม่รู้จะทำอย่างไรนอกจากนำเรื่องมาเขียนในเฟซบุ๊ก แต่ทางโรงพยาบาลก็ออกมาโพสต์กล่าวหาว่าเธอบิดเบือนและมีการแต่งรูป รวมถึงนำรูปของเธอไปประจานในเพจด้วย

               ทุกวันนี้เธอทั้งเหนื่อยและท้อ บางครั้งมองกระจกแล้วก็อยากตาย แต่จะขอสู้ต่อไป และอยากฝากเป็นอุทาหรณ์แก่ทุกคนว่าการทำศัลยกรรมที่เกาหลีก็มีด้านมืดเช่นกัน คนที่อยากจะไปควรเลือกเอเจนซี่และโรงพยาบาลที่ดี มีความรับผิดชอบ

               นอกจากนี้เจ้าของกระทู้ยังได้นำหน้าสดถ่ายตรงเทียบ ก่อน-หลัง ทำศัลยกรรม มาเผยให้ชาวเน็ตได้ชมกันประกอบด้วย พร้อมภาพอื่น ๆ ขณะรักษาตัวจากการผ่าตัด

               ทั้งนี้ หลังจากชาวเน็ตได้อ่านเรื่องราวดังกล่าว ก็ได้เข้ามาให้กำลังใจเจ้าของเรื่องกันเป็นจำนวนมาก โดยบางส่วนแนะนำให้ฟ้องไปยังเอเจนซี่กับทางโรงพยาบาล ขณะที่บางคนยังเตือนชาวเน็ตที่วิจารณ์ว่าหน้าใหม่สวยกว่า ให้มองเรื่องการทำศัลยกรรมที่ผิดพลาดมากกว่าจะมองว่าหน้าก่อน-หลังทำสวยกว่า

อย่างไรก็ตาม กลับมีชาวเน็ตอีกไม่น้อยที่เห็นต่าง โดยมองว่าเมื่อพิจารณาดูดี ๆ จะเห็นว่าโครงหน้าหลังทำศัลยกรรมที่เกาหลีนั้นดูเรียวเล็กกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด มีเพียงจมูกเท่านั้นที่ผิดรูปไป จึงแนะนำให้แก้ไขในไทย และการมองว่าทางโรงพยาบาลทำพลาดนั้นก็อาจจะไม่เป็นความจริงเสียทั้งหมด เพราะที่ผ่านมาเจ้าของเรื่องเคยผ่านการทำศัลยกรรมมาเยอะแล้ว แถมมีการใช้ซิลิโคนด้วย จึงมีโอกาสที่หน้าจะเปลี่ยนไป งานที่เกาหลีส่วนมากเป็นงานแก้ซึ่งทำได้ยาก